ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! (ญี่ปุ่น: 家庭教師ヒットマンREBORN! Katekyō Hittoman Ribōn! ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ดำเนินเรื่องจบแล้วทั้งในฉบับหนังสือการ์ตูนหรือมังงะ(Manga)และในอะนิเมะ(Anime) เรื่องและภาพโดย อะกิระ อะมะโนะ[1] โครงเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของ ซาวาดะ สึนะโยชิ เด็กนักเรียนธรรมดาจนกระทั่ง "รีบอร์น" นักฆ่ามือของวองโกเล่ แฟมิลี่ มาเฟีย แห่งอิตาลี ได้มาทำการฝึกฝนให้สึนะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟีย รุ่นที่ 10 ของวองโกเล่ แฟมิลี่[1] โดยเริ่มตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่น ลงในนิตยสารรายสัปดาห์ โชเน็นจัมป์ โดยติดหนึ่งในอันดับขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น[2] และฉบับรวมเล่มโดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะ และยังมีการจัดทำภาพยนตร์การ์ตูนครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! ซึ่งผลิตโดยบริษัทอาร์ทแลนด์ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมพ.ศ. 2549 จนถึง 25 กันยายน พ.ศ. 2553 ทางช่องทีวีโตเกียว
ในประเทศไทย ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์ ตีพิมพ์ลงในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์ รายสัปดาห์ และ ฉบับรวมเล่ม 36 เล่ม
ส่วนภาพยนตร์การ์ตูนได้รับลิขสิทธิ์โดยบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีการวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี และได้รับการออกอากาศทางช่องแก๊งการ์ตูน
เรื่องราวของ 'ซาวาดะ สึนะโยชิ' หรือ 'สึนะ' เด็กหนุ่มธรรมดา ที่ได้พบกับครูพิเศษนาม 'รีบอร์น' ที่บอกจะมาฝึกให้ เขาได้เป็นมาเฟียและดูแลแก็งค์ต่อไป หลังจากบทบดสอบทั้งหลายนั้น สึนะคือผู้สืบทอดหัวหน้าแก๊งมาเฟีย รุ่นที่ 10 ของแก็งมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 'วองโกเล่ แฟมิลี่' แห่งประเทศอิตาลี
หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในชั้นใน รุ่นพี่ชมรมเคนโด้ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยท้าสึนะประลองเคนโด้ และวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่พอรีบอร์นยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการถอนเส้นผมของรุ่นพี่ออกทั้งหัว (ป้งแปลอีกอย่างว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดของสึนะ และเคียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะและเพื่อนชนะได้ แต่ทว่าความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี่ ทำให้โกคุเทระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเทระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเทระโดยนระเบิดพลาด และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดให้จนช่วยชีวิตโกคุเทระไว้ โกคุเทระจึงยอมรับสึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่สิบ และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น ทำให้ "ยามาโมโตะ ทาเคชิ" นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเข้า ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ หลังจากนั้นสึนะได้รู้จักกับ "โบวีโน่ แรมโบ้" นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุ 5 ขวบ จาก 'โบวีโน่ แฟมิลี่' ที่ได้รับภารกิจมาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยสำเร็จ จนกลายมาเป็นเด็กในบ้านสึนะ ต่อมาคือ "อี้ผิง" นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น (จนมาอาศัยในบ้านสึนะอีกคน) ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ใช้พอยด์ซั่นคุกกิ๊ง (อาหารพิษ) ที่คิดจะมาฆ่าสึนะเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ภายหลังก็มาอาศัยในบ้านสึนะอีกคน
ภาคศึกโกคุโย ในภาคนี้ได้ดำเนินเรื่องว่า เด็ดนักเรียนโรงเรียนนามิโมริได้โดนลอบทำร้าย เรียวเฮก็เป็น1ในนั้นด้วย และถูกถอนฟันไป 5 ซี่ เหยื่อรายต่อมาคือ "คุซาคาเบะ เท็ตสึยะ" รองฯหัวหน้ากรรมการคุมกฎ ซึ่งถูกถอนฟันไป 4 ซี่ จึงสรุปได้ว่าเหยื่อที่ถูกเล่นงานโดนถอนฟันเป็นจำนวนนับถอยหลังไปเรื่อยๆ และตรงกับอันดับความเก่งเรื่องต่อยตีของม.นามิโมริ ซึ่งฟูตะเป็นคนจัดอันดับ และคนที่จะโดนเล่นงานรายต่อไปก็คือ โกคุเดระ ส่วนฮิบารีที่ไปจัดการกับศัตรูก่อน กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค "ซากุระโซซัดโซเซ" ที่เมื่ออยู่ท่ามกลางดอกซากุระแล้ว จะยืนไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโต้"ของ ดร. ชามาล ในขณะเดียวกัน โกคุเทระได้ เจอ 1 ในนักฆ่าของศัตรู "จิคุสะ" โดยบังเอิญ ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันโกคุเทระก็โดนพิษจากอาวุธโยโย่ เช่นเดียวกัน แต่ยามาโมโตะเข้ามาช่วยทันและพาไปรักษาตัวได้ รีบอร์นได้ออกคำสั่งให้พวกสึนะไปถล่ม พวกของ 'โรคุโด มุคุโร่' และบอกอีกว่ากระสุนดับเครื่องชนเหลืออยู่แค่นัดเดียว โดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเดระ และเบียงกี้ไปด้วย พวกสึนะก็ไปที่โกคุโยแลนด์ เพื่อปะทะกับพวกมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักฆ่าทั้งหมด ยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M พวกสึนะก็ชนะผ่านมาได้ ทุกคนที่กำลังบาดเจ็บหนักก็ต้องสู้กับมุคุโร่ ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็ก จนสลบไป โกคุเดระก็บาดเจ็บ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ และรู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ตัวจริง ก็โดนเข็มพิษจากจิคุสะลอบยิงใส่ มุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อตัวเองคือ "ลันเชีย" เมื่อรู้ว่า ด้านสึนะไม่มีกระสุนดับเครื่องชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโกรธและบุกไปหามุคุโร่ในโกคุโยคอมเพล็กซ์ทันที
พวกสึนะได้พบกับจิคุสะ โกคุเทระนั้นได้อาสาสู้ด้วย ระหว่างนั้นเอง เคนได้ปรากฏตัวขึ้น และมาช่วยจิคุสะ โกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย แต่ก็ได้ความช่วยเหลือจากฮิบาริ จากนั้นทั้งหมดจึงรวมพลังกันเพื่อสู้กับมุคุโร่ ฮิบารินั้นสลบไปก่อน เพราะบาดเจ็บก่อนหน้านี้มากแล้ว ในระหว่างที่สู้กันอยู่ เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงยิงปืนฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเดระ รีบอร์นจึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า "กระสุนสิงสู่" ซึ่งเป็นกระสุนต้องห้าม (วงการมาเฟียได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงใครก็ได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทว่าเลออนได้ฟักออกจากดักแด้ขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือ X-GLOVE (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงบ่น จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วย X-GLOVE และกระสุนเสียงบ่นที่ทำให้เข้าสู่โหมดใหม่"โหมดไฮเปอร์"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวินดีเช่ คือ ผู้คุมกฎของมาเฟียที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ในวงการมาเฟียจับตัวกลับไปพร้อมกับพรรคพวกทั้งหมด
ภาคศึกชิงแหวน หลังจากศึกมุคุโร่ พวกสึนะก็ต้องเผชิญกับกลุ่มวาเรีย (Varia) "สเปลบี สควอโล่" สมาชิกวาเรีย ธาตุพิรุณ นั้นไล่กวดบาจิลตลอดทางในญี่ปุ่น เพื่อชิงแหวนอีกครึ่งหนึ่งของวองโกเล่ และเจอกับพวกสึนะเข้า สควอโล่นั้นต้องการแหวนผู้พิทักษ์วองโกเล่ ครึ่งหนึ่งของแหวนแต่ละอัน ซึ่งเรียกว่า "Half Vongola Ring" สควอโล่นั้นได้แหวนของปลอมที่อยู่กับบาจิลไป ส่วนของจริงพ่อของสึนะได้กระจายแหวนไปให้ผู้พิทักษ์ทั้ง 7 คน โดยมอบแหวนดังนี้ วายุให้โกคุเดระ ,พิรุณให้ยามาโมโตะ ,อรุณให้เรียวเฮ ,อัสนีให้แรมโบ้ ,สายหมอกให้โคลม (มุคุโร่) ,เมฆาให้ฮิบาริ และมีการแข่งตัดสินว่าผู้ใดจะได้เป็นรุ่นที่10 ระหว่าง สึนะ กับแซนซัส รอบแรกเป็นศึกชิงแหวนอรุณระหว่าง เรียวเฮ กับ "ลุสซูเรีย" เรียวเฮเป็นฝ่ายชนะ ต่อมาศึกชิงแหวนอัสนีระหว่าง แรมโบ้ กับ "เลวี่ อาแทน" แรมโบ้นั้นใช้บาซูก้าทศวรรษเรียกตนใน10ปีข้างหน้าออกมา แต่ก็สู้ไม่ได้จึงใช้บาซูก้าทศวรรษที่แรมโบ้ปัจจุบันทิ้งไว้ยิงเป็นตัวเองในอีก20ปี จนเกีอบชนะแต่บาซูก้าดันหมเวลาเลยแพ้ไป สึนะได้เข้าไปช่วยทำให้ถูกปรับแพ้และถูกยึดแหวนแห่นภาไปด้วย ศึกชิงแหวนวายุระหว่าง โกคุเดระ กับ "เบลเฟกอล" โกคุเดระเป็นฝ่ายเป็นรอง เมื่อเวลาหมดลง ระเบิดที่ติดตั้งไว้ก็ระเบิดออก โกคุเดระเลือกเอาชีวิตรอด เบลจึงเป็นฝ่ายชนะ ศึกชิงแหวนพิรุณระหว่างยามาโมโตะ กับ "สควอโล่" ยามาโมโตะนั้นเสียเปรียบ แต่สุดท้ายก็คิดท่าของตัวเองคือ กระบวนท่ารุกที่9 "ฝนสะท้อนเงา" ทำให้ชนะมาได้ สควอโล่ผู้แพ้ก็ต้องเป็นเหยื่อของฉลามไป ศึกชิงแหวนสายหมอก ในวันแข่งคนที่มาปรากฏตัวบอกว่าเธอชื่อ "โคลม โดคุโร่" แต่ในระหว่างแข่งสามง่าม อาวุธของโคลมถูกหักลง ท้องของเธอก็ยุบลงเรื่อยๆ ทุกคนจึงรู้ว่าเธอมีชีวิตด้วยอวัยวะที่เป็นภาพลวงตา และ "โรคุโด มุคุโร่" จึงได้ปรากฏตัวออกมา และแข่งแทนจนชนะ ศึกแหวนเมฆาระหว่าฮิบาริ กับ "โกร่า มอสก้า" ฮิบาริชนะอย่างง่ายดาย แต่มอสก้าเกิดควบคุมไม่อยู่ สึนะจึงเข้าโหมดไฮเปอร์และใช้ไฟผ่ามอสก้าออก จึงพบว่ารุ่นที่9 ถูกใช้เป็นเตาพลังงานอยู่ ทุกๆอย่างจึงต้องมาตัดสินยังศึกชิงแหวนแห่งนภา...
ในศึกชิงแหวนนภา ผู้พิทักษ์ทุกคนจะโดนฉีดยาพิษอย่างแรงเอาไว้โดยแหวนคือตัวถอนพิษ แซนซัสได้ช่วยพวกตัวเอง โดยยิงเสาแหวนให้ผู้พิทักษ์ของตน เบลที่ได้แหวนวายุได้พบกับฮิบาริที่พังเสาแล้วนำแหวนมา ฮิบาริซัดแหวนวายุไปทางโกคุเดระ ทำให้มาช่วยแรมโบ้ได้ทัน และชนะเลวี่ ที่แซนซัสยิงเสาแหวนให้ได้ ฮิบาริที่ชนะเบลมาได้ไปช่วยยามาโมโตะ แต่เพราะบาดเจ็บจึงเปลี่ยนตัวให้ยามาโมโตะให้ไปแทน ด้านโกคุเระเมื่อช่วยเรียวเฮเสร็จ จึงไปสมทบกับยามาโมโตะ และรีบไปช่วยโคลมที่ถูกมาม่อนกับเบลจับเป็นตัวประกัน และทำข้อแลกเปลี่ยนถอนพิษให้โคลมก่อน แลกกับแหวนของทั้ง 2 แต่ยามาโมโตะกลับไม่ยอมเอาแหวนให้ มาม่อนจับทั้งสองไว้ เรียวเฮมาช่วยไว้ได้ทัน แต่แหวนทั้งหมดก็ถูกชิงไป ดีโน่ที่สามารถช่วยสควอโล่ให้รอดตายได้จึงได้รู้ว่า แซนซัสไม่ใช้ลูกของรุ่นที่9 สุดท้ายแหวนปฏิเสธแซนซัส ส่วนวาเรียอีกจำนวน1จะมาที่นี่ แต่ลันเซียก็จัดการไว้ทั้งหมด สุดท้ายตำแหน่งรุ่นที่10 ของวองโกเล่แฟมิลี่ก็เป็นของ สึนะและผู้พิทักษ์นั้นเอง
ภาคศึกโลกอนาคต รีบอร์นถูกนำตัวสู่อนาคตด้วยบาซูก้าทศวรรษ และยังไม่กลับสู่สภาพเดิม สึนะจึงให้แรมโบ้นำบาซูก้าออกมา เพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มอีก 10 ปีข้างหน้ามาสอบถาม แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน สึนะโดนบาซูก้าส่งไปในอีก 10 ข้างหน้า และได้ทราบสิ่งที่น่าตกใจมากว่า ตนเองถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้ว พร้อมทั้งยังทำลายแหวนวองโกเล่ จากปากของ "รัล มิลจิ" 1 ใน อัลโกบาเลโน่ (ที่ไม่สมบูรณ์) โดยฐานทัพของวองโกเล่นั้นถูกย้ายศูนย์บัญชาการลงใต้ดินหลังจากโดน "มิลฟีโอเล่แฟมิลี่" ซึ่งมีผู้บัญชาการนำโดย "เบียคุรัน" ถล่มจนราบ วองโกเล่รุ่นที่9 หายสาบสูญ และมีคำสั่งสุดท้ายให้ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน ที่กระจัดกระจาย มารวมตัวกันเพื่อหยุดแผนการสร้างโลกใหม่ด้วยการนำแหวนวองโกเล่ในอดีต และจุกนมแห่งอัลโกบาเลโน่ เพื่อรวมกับแหวนของมิลฟิโอเล่ เป็น ทูรินิเซนต์ 7³
พวกสึนะ (จากอดีต) ได้ฝึกฝน และบุกเข้าไปในฐานทัพมิลฟีโอเล่ ผลของการฝึกทำให้สามารถสู้จนชนะพวกระดับหัวหน้าได้หมด และได้อิริเอะ โชอิจิ กับสปาน่าที่ทรยศมาเป็นพวก แต่เบียคุรันกลับประกาศว่า หกบุปผาอาลัยที่ครอบครองแหวนมาเล่ริงเป็นผูครอบครองแหวนปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการ ด้วยเกมต่อสู้ที่เคยเล่นกับอิริเอะ โชอิจิเมื่อก่อน จางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้พวกสึนะคือ มอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่องชน เพื่อใช้ในการแข่ง Chioce กับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะ และสปาน่า ทางฝ่ายมิลฟิโอเล่ได้สุ่มตัวแทนคือ "เดซี่" (อรุณ) "คิเคียว" (เมฆา) "โทริคาบูโตะ" (สายหมอก) และ "อัศวินมายา" เป้าหมายคือ เดซี่ กับ อิริเอะ ในระหว่างต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิเคียว วองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียคุรัน ทันใดนั้น "ยูนิ" ผู้นำของ "จีลโรเนโร่แฟมิลี่" ผู้คุมอำนาจอีกครึ่งหนึ่งของมีลฟีโอเล่ และเป็นอัลโกบาเลโน่แห่งนภาได้ปรากฏตัวขึ้น และให้ผลการแข่งขันเป็นโมฆะ และลาออกจากมิลฟิลโอเล่ เบียคุรันไม่ยอม และขู่จะทำร้ายยูนิ แต่มุคุโร่ก็ได้ปรากฏตัวมาปกป้องยูนิและบอกว่าตนยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ แล้วบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริทันที
เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้แยกย้ายกันออกไล่ล่า ฮิบาริ (จากอดีต) ,ดีโน่ โรมาริโอ้ และคุซาคาเบะ (อนาคต) ได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และได้สู้กับเดซี่ ซึ่งเปิดกล่องสังหารแปลงร่างกายของตนเป็น "จิ้งจกอรุณ" แต่ฮิบาริก็จัดการลงด้วยอาวุธกล่องวองโกเล่เมฆา "กุญแจมืออลาวดี้" และ "ซาคุโร่" บุผาอาลัยธาตุวายุได้บุกเข้ามาในฐานทัพ แต่ก็ได้สคอวโล่ช่วยถ่วงเวลา พวกสึนะตัดสินใจไปซ่อนที่ร้านอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ตามคำแนะนำของฮารุ พวกสึนะได้พบชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อ "คาวาฮิระ" เจ้าของร้านนั้น ซึ่งให้พวกสึนะอาศัยหลบซ่อน และได้รู้ทีหลังว่าคาวาฮิระเป็นลูกค้าราเมงที่อี้ผิง 10 ปีต่อมาทำงาน คาวาฮิระนั้นช่วยล่อซาคุโร่ไปยังภูเขาฟูจิ ก่อนจะหายตัวไป แต่โทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่ก็ได้ "แกมม่า" คนในแฟมิลี่ของยูนิมาช่วยไว้ทัน โทริคาบุโตะเปิดกล่องสังหารแปลงเป็น "ไนท์เบน" ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก ส่วนโคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอา "เลนส์ปีศาจดี.สเปด" มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X-Burner ของสึนะ ด้านเบียกคุรันได้ส่งลูกน้อง ไปจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 (ธาตุอัสนี) ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่ง "โกสต์" แต่ฟรานได้ปลอมตัวแล้วขออนุญาตนำตัว "โรคุโด มุคุโร่" ออกมาก่อนแล้ว
พวกสึนะได้ไปพักแรมยังป่าโลงศพของสึนะ ที่จะจบเหตุการณ์ทั้งหมดที่นั่น ยูนิได้เล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจาก "ลูเช่" คุณยายของตน และ"อาเรีย" ว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (เป็นสาเหตุให้ลูเช่กับอาเรีย ป่วยและเสียชีวิตไป) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถยิ่งเสื่อมไป ในการต่อสู้วองโกเล่นั้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดักอยู่ริมทะเลสาบ ,ดักอยู่ที่ป่า และเป็นกองกำลังปกป้องยูนิ กลุ่มแรกเรียวเฮได้เจอกับคิเคียว คิเคียวก็ได้ใช้กล่องแร็พเตอร์ทำร้ายกลุ่มหนึ่งก่อน และให้ฝูงแรพเตอร์เล็งไปที่แรมโบ้ เพราะดูเหมือนจุดอ่อน เรียวเฮจึงงัดทีเด็ดโดยพูดให้แรมโบ้คิดถึงแม่ของสึนะ ด้วยความคิดถึงแม่ของสึนะแรมโบ้ได้จุดไฟอัสนีขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเปิดกล่องวองโกเล่ "โล่ของแรมโพ" จัดการฝูงแรพเตอร์ ต่อมาพวกวาเรีย และพวกของโรคุโด มุคุโร่ได้เดินทางมายังนามิโมริซันซัสได้จัดการคิเคียวไป แต่แล้ว"โกส" (ธาตุอัสนีของมิลฟีโอเล่) ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น และได้ดูดไฟดับเครื่องชนของ กลุ่ม1 และ 2 ไปจนหมดรวมทั้งวาเรียด้วย สึนะได้ตามไปสมทบ และได้ใช้วิชา "เดือดทะลุจุดศูนย์ดัดแปลง" ดูดพลังแข่งกับโกส แต่พลังทั้งหมดที่โกสดูดมากลับไปเป็นพลังไฟให้เบียคุรัน (โกสเป็นตัวเบียคุรันในโลกคู่ขนาน) จากนั้นเบียคุรันปรากฏตัวขึ้น สึนะเสียท่าเบียคุรันอย่างมาก แต่แล้ว "วองโกเล่รุ่นที่ 1" (พรีโม่) ได้ช่วยปลดปล่อยพลังวองโกเล่ริงให้ ส่วนยูนิและ แกมม่ายอมสละชีพเพื่อคืนชีพให้กับอัลโกบาเลโน่ทั้งหมด สึนะจึงใช้ x-burner สังหารเบียคุรัน ศึกครั้งนี้เบียคุรันตาย ทุกคนก็ได้กลับอดีตอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของอัลโกบาเลโน่ ที่คืนชีพมา
ภาคชิม่อนแฟมิลี่ (มีเฉพาะในแบบมังงะ) ผลจากการกลับมาอดีตของพวกสึนะ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เป็นเหตุให้หลายโรงเรียนเสียหาย ซึ่ง 'ชิม่อน' ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องย้ายมาเรียนยังนามิโมริชั่วคราว ในห้องของสึนะมีนักเรียนที่ย้ายมาชั่วคราวคือ 'โคซาโตะ เอนมะ' เป็นเด็กชายที่เงียบๆ ไม่ค่อยพูด และดูท่าทางห่วย ไม่ได้เรื่องเหมือนกับสึนะ และ 'ชิทพี' หรือที่เธอชอบให้เรียกตัวเองว่า "ชิทโตะพิซจัง" โกคุเดระสงสัยว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาว จึงสนใจในตัวเธออย่างมาก ในห้องของเรียวเฮก็ได้มีนักเรียนย้ายมาชั่วคราวเช่นกัน 'อาโอบะ โคโย' เป็นพวกใช้กำลัง แต่ไร้ซึ่งสมองเช่นเดียวกับเรียวเฮ และมีความสามารถด้านมวยไทย (?) ทำให้ทั้ง 2 เข้ากันได้ดีอย่างมาก (ทะเลาะกันไป สนิทกันไป) ในชมรมของยามาโมโตะก็มีนักเรียนชั่วคราวมาเข้าเช่นกัน 'มิซึโนะ คาโอรุ' เป็นผู้ชายตัวสูง ใหญ่ แต่ออกจะเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นคนขี้อายมาก และสุดท้ายก็สนิทกับยามาโมโตะด้วยดี ทางด้านฮิบาริก็ถูกประกาศท้าสู้จาก 'ซูซูกิ ฮาเดลไฮล์' นักเรียนม.3 มัธยมชิม่อน ที่มาเรียนที่นามิฯชั่วคราว มีความเป็นผู้ใหญ่ และมีความเด็ดเดี่ยวสูงมาก แรมโบ้ก็ได้เพื่อนใหม่เป็น 'โอยามะ ราวจิ' นักเรียนโรงเรียนชิม่อน และโคลมก็ถูกตามจีบโดย 'คาโต้ จูลีย์' นักเรียนโรงเรียนชิม่อนเช่นกัน วันต่อมารีบอร์นได้ประกาศกำหนดวันรับตำแหน่งของวองโกเล่รุ่นที่ 10 และเผยว่าแท้จริงแล้ว นักเรียนโรงเรียนชิม่อนคือ 'ชิม่อน แฟมิลี่' แฟมิลี่พันธมิตรเก่าแก่ของวองโกเล่ ที่จะมาร่วมพิธีเช่นกัน...
แต่แล้วก็เกิดเหตุขึ้นเมื่อ 'กิ๊กแฟมิลี่' แฟมิลี่นักฆ่าชื่อดัง ที่มาร่วมพิธีของวองโกเล่ ผู้พิทักษ์ทั้งหมดถูกฆ่าทุกคน เสมือนเป็นการส่งสารเตือนลางร้าย ในงานรับตำแหน่งของวองโกเล่รุ่นที่ 10 โกคุเดระจึงเรียกรวมผู้พิทักษ์วองโกเล่ (ไม่นับโคลม แรมโบ้ ฮิบาริ) และผู้พิทักษ์ชิม่อนแฟมิลี่เพื่อมาคุ้มครองสึนะจนถึงช่วงวันพิธี สึนะ และเอ็นมะจากชิม่อนได้สนิทกันอย่างรวดเร็ว (เพราะ ห่วยเหมือนกัน) ส่วนผู้พิทักษ์วองโกเล่คนอื่นก็เข้าได้ดีกับผู้พิทักษ์ชิม่อน แต่...เรื่องร้ายแรงก็ได้เกิดขึ้นเมื่อยามาโมโตะถูกลอบทำร้าย จนปางตาย (แท้จริงเป็นฝีมือของคาโอรุ เพราะ ยามาโมโตะได้เห็นแผนการชิง 'บาป' ในพิธีรับตำแหน่งของวองโกเล่) สึนะจึงตกลงเข้ารับตำแหน่งเพื่อหาตัวคนร้าย ที่คาดว่าจะปรากฏตัวในวันพิธี...ในวันพิธีขณะพวกสึนะกำลังรับ 'บาป' เพื่อรับตำแหน่ง พิธีถูกทำลายลงโดยเหล่าชิม่อนแฟมิลี่ ที่เข้าแย่งชิงบาป พวกสึนะเข้าต่อสู้ แต่พลังยังห่างกันเกินไป จึงแพ้ยับเบิน และแหวนถูกทำลายจนแตกละเอียด รวมถึงโคลมถูกพาตัวไป ที่เกาะชิม่อน สนามต่อสู้ระหว่างแฟมิลี่ในครั้งนี้...
พวกสึนะได้บุกไปยังเกาะชิม่อน เพื่อชิงตัวโคลมกลับมา...ด้วยพลังของแหวนวองโกเล่ รูปแบบใหม่ที่ได้รับการอัพเกรด ขณะนั้นเอง 'วินดีเช่' ได้ปรากฏตัวขึ้น และประกาศจะเป็นศักขีพยานในการต่อสู้ระหว่างสองแฟมิลี่ ตามคำสาบานของจีอ็อตโต้ (พรีโม่) และชิม่อน โคซาร์ต (รุ่นที่ 1 แห่งชิม่อน) ซึ่งผู้แพ้ในศึกจะถูกนำตัวไปขังในวินดีเช่ การต่อสู้แรกระหว่าง เรียวเฮ และโคโย เดิมพันด้วยศักดิ์ศรี โคโยใช้ไฟธาตุพฤกษา (1 ใน 7 ธาตุแห่งปฐพี ตรงข้ามกับวองโกเล่) ผลคือเสมอและทั้งคู่ถูกนำตัวไปคุมขัง สึนะที่รับไม่ได้จึงเกิดกังวลขึ้นขณะนั้นฮิบาริได้ปรากฏตัวขึ้น และเกิดการต่อสู้ระหว่าง ฮิบาริ และฮาเดลไฮท์ (เมฆา Vs น้ำแข็ง) ศึกชิงปลอกแขนกรรมการคุมกฎ & กรรมการล้างบางจึงเริ่มขึ้น ซึ่งฮิบาริเป็นฝ่ายชนะ และพูดจนสึนะคิดได้...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น